กระเบื้องยางหดตัว เกิดจากอะไรและแก้ไขได้หรือไม่ ?

S.J.Sourcing สรุปให้
- กระเบื้องยางหดตัว เกิดจากความยืดหยุ่นของวัสดุพลาสติกที่เจอการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ทำให้เกิดการหด-ขยายตัว
- ความชื้นใต้กระเบื้องเกิน 5% เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดการหดตัว
- วิธีแก้ไขมี 3 แบบ คือ รื้อปูใหม่ด้วยกระเบื้องเดิม ใช้แด๊ปสีเก็บตะเข็บ และใช้ WAX ทาเคลือบ ขึ้นอยู่กับระดับความเสียหาย
- ทิ้งกระเบื้องให้ขยายตัวกับสภาพอากาศหน้างานก่อนปู 1-2 วัน และเตรียมพื้นให้แห้ง เพื่อป้องกันกระเบื้องยางหดตัว
-
กระเบื้องยางชนิด SPC ที่ผสมผงหินกับไวนิล มีอัตราการยืดหดตัวน้อยกว่าแบบทั่วไป
กระเบื้องยางหดตัว หนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยสำหรับการเลือกใช้วัสดุปูพื้นชนิดนี้ แม้ว่ากระเบื้องยางจะมีข้อดีหลายอย่าง ทั้งความทนทาน ราคาที่เข้าถึงง่าย มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย รวมถึงความสามารถในการทนน้ำและกันปลวก แต่การเกิดร่องห่างระหว่างแผ่นกระเบื้องก็อาจสร้างความกังวลใจและลดความสวยของพื้นบ้านได้
บทความนี้ S.J.Sourcing จะพูดถึงต้นเหตุของปัญหากระเบื้องยางหดตัว พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขกับแนวทางป้องกันที่ทำตามได้ไม่ยาก เพื่อให้พื้นกระเบื้องยางของคุณกลับมาเรียบสวยและใช้งานได้นานขึ้นค่ะ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- S.J.Sourcing สรุปให้
- กระเบื้องยางหดตัว เกิดจากสาเหตุอะไร ?
- วิธีการแก้ไขปัญหาเมื่อ กระเบื้องยางหด
- วิธีป้องกันไม่ให้ กระเบื้องยางหดตัว ตั้งแต่แรก
- การดูแลพื้นเพื่อลดโอกาสเกิดกระเบื้องยางหด
กระเบื้องยางหดตัว เกิดจากสาเหตุอะไร ?

กระเบื้องยางหดตัว ไม่ได้มาจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยร่วมกัน ตั้งแต่คุณสมบัติของตัววัสดุเอง สภาพแวดล้อมของพื้นที่ติดตั้ง จนถึงขั้นตอนการปูพื้น โดยสาเหตุของการหดตัวมีดังนี้ค่ะ
- การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผลโดยตรงต่อวัสดุ PVC ที่เป็นส่วนประกอบหลักของกระเบื้องยาง เมื่ออากาศร้อนจัดกระเบื้องยางจะขยายตัว และถ้าอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็วก็จะเกิดการหดตัว การยืดกับหดสลับกันไปมาบ่อยครั้ง ทำให้กระเบื้องยางเสียรูปและเกิดเป็นร่องห่างระหว่างแผ่นได้
- การติดตั้งที่ไม่ถูกวิธี ขั้นตอนการติดตั้งเป็นขั้นตอนที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของพื้น ถ้าช่างปูพื้นไม่ได้พักแผ่นกระเบื้องยางไว้ในพื้นที่ติดตั้งก่อน 2448 ชั่วโมง เพื่อให้วัสดุปรับสภาพให้เข้ากับอุณหภูมิห้อง หรือใช้กาวติดกระเบื้องยางที่ไม่มีคุณภาพและยึดเกาะได้ไม่ดีพอ เมื่อเวลาผ่านไปก็มีโอกาสที่กระเบื้องจะหดตัวหรือร่อนออกจากพื้นเดิม
- คุณภาพของวัสดุ กระเบื้องยางที่มีคุณภาพต่ำหรือมีความหนาแน่นของวัสดุไม่เพียงพอ จะมีความคงทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมน้อยกว่า ทำให้เกิดกระเบื้องยางหดตัวได้ง่ายถ้าเจอกับความร้อนหรือความเย็น
-
การสัมผัสแสงแดดโดยตรง บริเวณที่โดนแสงแดดส่องถึงเป็นเวลานาน เช่น พื้นที่ใกล้หน้าต่างหรือประตู จะมีความร้อนสะสมสูงกว่าบริเวณอื่น ความร้อนจากรังสียูวีจะเร่งให้กระเบื้องยางเสื่อมสภาพและเกิดการหดตัวได้เร็วกว่าปกติ
วิธีการแก้ไขปัญหาเมื่อ กระเบื้องยางหด

กระเบื้องยางหดตัวจนเกิดเป็นร่องห่างระหว่างแผ่น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เมื่อใช้งานไปสักระยะ วิธีการแก้ไขจะแตกต่างกันไปตามระดับความเสียหายของพื้น ตั้งแต่วิธีซ่อมแซมเล็ก ๆ น้อย ๆ จนถึงการรื้อและติดตั้งใหม่
วิธีแก้ไขตามระดับความเสียหาย
ก่อนจะเลือกวิธีซ่อมแซม ควรสำรวจพื้นที่ดูก่อนว่าปัญหากระเบื้องยางหดตัวนั้นรุนแรงแค่ไหน เพื่อเลือกแนวทางที่ตรงจุดและให้ผลลัพธ์ที่ดีค่ะ
กรณีหดตัวเล็กน้อยและแผ่นยังสภาพดี
ถ้าร่องที่เกิดขึ้นมีขนาดเล็กและตัวแผ่นกระเบื้องยังคงเรียบ ไม่โก่งงอ สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ดังนี้ค่ะ
- ลองขยับแผ่นกระเบื้อง ใช้ปืนเป่าลมร้อนเป่าที่แผ่นกระเบื้องเบา ๆ เพื่อให้วัสดุมีความยืดหยุ่นขึ้น จากนั้นใช้ลูกกลิ้งหรือตัวดูดสุญญากาศค่อย ๆ ดึงแผ่นกระเบื้องให้ชิดกันเหมือนเดิม
-
อุดรอยต่อ หลังจากขยับแผ่นแล้ว ถ้ายังมีร่องเล็ก ๆ เหลืออยู่ ให้ใช้ยาแนวหรือแด๊ป (DAP) สำหรับกระเบื้องยางที่มีสีใกล้เคียงกันมาอุดรอยต่อนั้น เพื่อเก็บงานให้เรียบร้อยและป้องกันฝุ่นลงไปสะสม
กรณีหดตัวรุนแรงหรือแผ่นกระเบื้องเสียหาย
กรณีที่ช่องว่างระหว่างแผ่นกว้างมาก หรือสังเกตเห็นว่าแผ่นกระเบื้องเริ่มแข็งกระด้างและโก่งตัวขึ้นมา การซ่อมกระเบื้องยางด้วยการเปลี่ยนแผ่นใหม่จะเป็นทางออกที่ดีกว่า โดยมีขั้นตอนดังนี้
- ใช้คัตเตอร์กรีดรอบแผ่นกระเบื้องที่เสียหาย แล้วค่อย ๆ แซะออกอย่างระมัดระวัง
- ทำความสะอาดพื้นผิวด้านล่าง ขจัดคราบกาวเก่าออกให้หมดเพื่อให้พื้นเรียบ
- ทากาวสำหรับปูกระเบื้องยางลงบนพื้นที่ว่าง
- นำแผ่นกระเบื้องสำรองมาติดตั้งแทนที่ กดให้แน่นและเรียบเสมอกับแผ่นรอบข้าง
-
รอให้กาวแห้งสนิทตามเวลาที่ผู้ผลิตแนะนำก่อนกลับเข้าใช้งาน
แนวทางแก้ไขที่ช่างแนะนำสำหรับพื้นที่กว้าง
สำหรับปัญหากระเบื้องยางหดตัวที่เกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้าง มีอีกหนึ่งวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่เรียบร้อยและคงทน นั่นคือการรื้อแล้วปูใหม่โดยใช้กระเบื้องชุดเดิมค่ะ
การรื้อและปูใหม่ด้วยกระเบื้องเดิมคือวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาได้ในระยะยาว เพราะแผ่นกระเบื้องได้ผ่านการปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิของห้องแล้ว ทำให้โอกาสเกิดการหดตัวซ้ำลดลง นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้เราได้ตรวจเช็คสภาพพื้นผิวชั้นล่างและเตรียมพื้นใหม่ให้พร้อมก่อนการติดตั้งอีกครั้ง โดยมีขั้นตอนการแก้ไข ดังนี้
- รื้อแผ่นกระเบื้องยางเดิมออกอย่างเบามือเพื่อไม่ให้แผ่นเสียหาย
- ตรวจเช็คพื้นผิวเดิมว่ามีความชื้นหรือไม่ และปรับพื้นให้เรียบเสมอกัน
- ทำความสะอาดพื้นให้ปราศจากฝุ่นและเศษวัสดุ
- ทากาวและเริ่มปูกระเบื้องยางกลับเข้าไปใหม่ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง
-
หลังจากติดตั้งเสร็จ ควรทิ้งไว้ให้กาวแห้งสนิทอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
การบำรุงรักษาเพื่อป้องกันและปกปิดร่องรอย
การใช้แว็กซ์ (WAX) เคลือบผิว คือวิธีที่ช่วยได้ทั้งในแง่ของการป้องกันและแก้ไขปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะการเคลือบแว็กซ์จะช่วยสร้างชั้นฟิล์มบาง ๆ บนผิวหน้ากระเบื้อง
วิธีนี้ช่วยปกปิดร่องห่างขนาดเล็กที่ไม่ลึกมาก ช่วยเพิ่มความเงาให้พื้นดูใหม่ขึ้น และยังช่วยป้องกันกระเบื้องยางหดตัวเพิ่มเติมในอนาคตได้อีกทางหนึ่ง โดยมีขั้นตอนการทำ ดังนี้ค่ะ
- ทำความสะอาดพื้นกระเบื้องยางให้สะอาดและเช็ดให้แห้งสนิท
- เลือกใช้แว็กซ์ที่ผลิตมาสำหรับกระเบื้องยาง
- ใช้ผ้าหรืออุปกรณ์ทาแว็กซ์ให้ทั่วพื้นผิวอย่างสม่ำเสมอ
- ทิ้งไว้ให้แห้งตามคำแนะนำข้างผลิตภัณฑ์
-
สามารถทาซ้ำ 2-3 รอบ เพื่อเพิ่มความทนทานและการป้องกัน
วิธีป้องกันไม่ให้ กระเบื้องยางหดตัว ตั้งแต่แรก

ปัญหากระเบื้องยางหดตัวสามารถป้องกันได้ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง การเตรียมการที่ดีตั้งแต่แรกจะช่วยลดปัญหาที่อาจตามมาในอนาคต ทำให้พื้นบ้านคงสภาพสวยงามได้นานขึ้นค่ะ
การเตรียมพื้นผิวก่อนติดตั้ง
การปรับพื้นก่อนปูกระเบื้องยางเป็นขั้นตอนพื้นฐาน โดยต้องให้แน่ใจว่าพื้นแห้งเรียบสนิท ไม่มีความชื้น และความชื้นใต้พื้นไม่ควรเกิน 5% ขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวมีดังนี้ค่ะ
- ทำความสะอาด กวาดและเช็ดพื้นให้ปราศจากฝุ่น คราบไขมัน หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่จะขัดขวางการยึดเกาะของกาว
- ตรวจเช็คความเรียบ พื้นต้องเรียบเสมอกัน ไม่มีลักษณะเป็นแอ่งหรือรอยแตกร้าวขนาดใหญ่
- ถ้าพื้นขรุขระหรือไม่เรียบเสมอกัน ควรใช้ปูนปรับระดับชนิดไหลตัวได้ (Self-Leveling) เพื่อเทปรับให้พื้นได้ระดับเดียวกัน
-
รอยแตกร้าวเล็กน้อย สามารถซ่อมแซมได้ด้วยการใช้ปูน ยิปซั่ม และกาวผสมน้ำในสัดส่วนที่พอเหมาะ แล้วเกลี่ยให้เรียบ
การเลือกวัสดุและปรับสภาพกระเบื้องยาง
การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพและการเตรียมกระเบื้องยางให้พร้อมก่อนติดตั้ง เป็นอีกขั้นตอนที่จะช่วยป้องกันปัญหากระเบื้องยางหดตัวได้ค่ะ
เลือกกระเบื้องยางที่ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลง
ปัจจุบันมีการพัฒนากระเบื้องยางชนิด SPC ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหากระเบื้องยางหดตัว ด้วยการผสมผงหินกับไวนิลเข้าด้วยกัน ทำให้มีอัตราการยืดหดขยายที่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ข้อควรพิจารณาในการเลือกกระเบื้องยาง ได้แก่
- กระเบื้องยาง SPC (Stone Plastic Composite) วัสดุที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดการหดตัวโดยเฉพาะ ด้วยส่วนผสมของผงหินกับพลาสติก ทำให้แผ่นกระเบื้องมีความแข็งแรงและคงรูปได้ดี
- เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มองหาแบรนด์ที่มีมาตรฐานรับรองและเป็นที่รู้จัก
- ความหนาของแผ่น กระเบื้องยางที่มีความหนามากกว่าจะมีแนวโน้มทนทานและหดตัวน้อยลง
-
สอบถามข้อมูล พูดคุยกับผู้ขายเกี่ยวกับคุณสมบัติการทนความร้อน และการหดตัวของผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่น
ปล่อยให้กระเบื้องปรับสภาพก่อนติดตั้ง
ถ้าตัดสินใจแล้วว่าต้องการปูพื้นด้วยกระเบื้องยาง สิ่งที่ต้องทำคือ การทิ้งให้กระเบื้องยางขยายตัวกับสภาพอากาศหน้างานก่อน 1-2 วัน เพื่อช่วยลดการเปลี่ยนแปลงของขนาดแผ่นหลังติดตั้งเสร็จค่ะ
- นำกระเบื้องยางออกจากบรรจุภัณฑ์และวางไว้ในพื้นที่ที่จะติดตั้งจริง
- จัดเรียงให้อากาศสามารถไหลเวียนได้รอบทุกแผ่น
- ปล่อยให้กระเบื้องปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิและความชื้นในพื้นที่ติดตั้งอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
-
ระวังอย่าให้โดนแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันการบิดงอ
ขั้นตอนการติดตั้งและเคลือบผิว
เมื่อเตรียมพื้นและวัสดุพร้อมแล้ว ขั้นตอนการติดตั้งกับการเก็บงานขั้นสุดท้าย ก็เป็นส่วนที่จะทำให้พื้นกระเบื้องยางออกมาสวยและทนทานขึ้นค่ะ
ติดตั้งอย่างถูกวิธี
การติดตั้งกระเบื้องยางที่ถูกต้องจะช่วยลดโอกาสกระเบื้องยางหดตัว ขั้นตอนหลักในการติดตั้งมีดังนี้ค่ะ
- เลือกกาวที่เหมาะสม กรณีเป็นกระเบื้องยางแบบมีกาวในตัว ต้องแน่ใจว่าพื้นผิวที่ปูต้องเรียบเสมอกัน แข็งแรง และไม่มีรอยแตกร้าว
- ทากาวให้ทั่วและสม่ำเสมอ (กรณีกระเบื้องยางแบบทากาว)
- กดกระเบื้องให้แนบสนิทกับพื้น ไม่ให้มีฟองอากาศหรือช่องว่าง
-
หลังติดตั้งกระเบื้องยาง ควรทิ้งไว้ให้กาวแห้งสนิทอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง ก่อนที่จะเริ่มใช้งานพื้นที่
เคลือบผิวหน้าเพื่อการป้องกัน
การลงแว็กซ์ (WAX) เคลือบผิวหน้ากระเบื้องยางหลังติดตั้ง เป็นอีกวิธีที่ช่วยเสริมการป้องกันการหดตัวได้ค่ะ
- เลือกใช้น้ำยาเคลือบผิวสำหรับกระเบื้องยาง
- ทาให้ทั่วถึงและสม่ำเสมอตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ อาจต้องทา 2-3 ชั้น
-
ควรเคลือบซ้ำทุก 6-12 เดือน เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการปกป้องผิวหน้ากระเบื้องยางให้คงทน
แม้ว่าปัญหากระเบื้องยางหดตัวจะสร้างความกังวลใจ แต่ถ้ารู้ถึงสาเหตุกับวิธีจัดการที่ถูกต้อง ก็จะสามารถดูแลรักษาพื้นบ้านให้คงความสวยและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไปอีกนานค่ะ
การดูแลพื้นเพื่อลดโอกาสเกิดกระเบื้องยางหด

ปัญหากระเบื้องยางหดตัวจนเกิดร่องห่าง สามารถป้องกันได้ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง แต่การดูแลรักษาพื้นอย่างถูกวิธีหลังติดตั้งก็เป็นเรื่องที่ช่วยยืดอายุการใช้งานและลดโอกาสเกิดปัญหาในอนาคต การดูแลพื้นกระเบื้องยางให้คงสภาพเดิมกับการยืดอายุการใช้งานนั้นมีหลายวิธีที่ทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
จุดเด่นอย่างหนึ่งของกระเบื้องยางคือความเงาที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าขาดการดูแล พื้นผิวก็อาจหมองคล้ำลงได้ การทำความสะอาดยางถูกวิธีเป็นประจำจะช่วยรักษาความเงาและป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกค่ะ
- ใช้ไม้กวาดขนนุ่มกวาดพื้นเป็นประจำ เพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจสร้างรอยขีดข่วน
- ถ้ามีคราบสกปรกหกเลอะ ให้รีบเช็ดทำความสะอาดทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้
- ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดทำความสะอาดพื้น ถ้าเจอคราบฝังแน่น ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีค่าเป็นกลาง
-
หลังจากใช้น้ำยาทำความสะอาดทุกครั้ง ควรใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดซ้ำอีกรอบเพื่อล้างคราบน้ำยาออกให้หมด
หลีกเลี่ยงน้ำยาและอุปกรณ์ทำความสะอาดที่รุนแรง
การเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดเป็นอีกเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะน้ำยาบางชนิดมีสารเคมีที่รุนแรงเกินไปสำหรับพื้นผิวกระเบื้องยาง และอาจทำลายชั้นเคลือบผิว ทำให้สีซีดจางหรือเกิดรอยด่างได้
| สิ่งที่ควรทำ | สิ่งที่ควรเลี่ยง |
|---|---|
|
|
ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในห้อง
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหากระเบื้องยางหดตัว การควบคุมสภาพแวดล้อมภายในห้องให้คงที่จึงช่วยลดปัญหานี้ได้ค่ะ
- พยายามรักษาอุณหภูมิในห้องให้คงที่ ไม่ให้ร้อนหรือเย็นจัดเกินไป
- หลีกเลี่ยงการปล่อยให้แสงแดดส่องกระทบพื้นโดยตรงเป็นเวลานาน สามารถใช้ผ้าม่านหรือมู่ลี่เพื่อช่วยกรองแสง
-
ควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ในห้องให้อยู่ในระดับประมาณ 40-60% สำหรับห้องที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ควรติดตั้งระบบระบายอากาศเพื่อช่วยถ่ายเทอากาศ
วิธีป้องกันรอยขีดข่วนบนพื้นผิว
รอยขีดข่วนทำให้พื้นดูไม่เรียบเนียน แล้วยังทำให้ความชื้นซึมลงไปได้ง่าย ส่งผลต่อการหดตัวของแผ่นกระเบื้องยางในระยะยาว การป้องกันรอยขีดข่วนตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยรักษาพื้นผิวให้ใช้งานได้นานขึ้นค่ะ
- ติดแผ่นรองสักหลาดหรือยางที่ขาเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ หรือตู้
- หลีกเลี่ยงการลากของหนักบนพื้นโดยตรง ควรยกหรือใช้อุปกรณ์ช่วยเคลื่อนย้าย
-
วางพรมเช็ดเท้าไว้บริเวณทางเข้า-ออก เพื่อดักจับเศษหิน ดิน และทราย ที่ติดมากับรองเท้า
การลงแว็กซ์ (WAX) เคลือบผิวซ้ำ
การลงแว็กซ์เคลือบผิว ช่วยปกป้องพื้นผิวและลดโอกาสกระเบื้องยางหดตัว เพราะชั้นแว็กซ์จะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันความชื้นกับรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ค่ะ
ควรหมั่นสังเกตสภาพชั้นเคลือบผิวของพื้น ถ้าเริ่มดูหมองหรือมีรอยเยอะขึ้น ก็ถึงเวลาที่ต้องลงเคลือบผิวใหม่ โดยปกติแล้วควรทำซ้ำทุก 6-12 เดือน แต่สำหรับพื้นที่ที่มีคนเดินผ่านบ่อย ๆ อาจต้องทำถี่ขึ้น ขั้นตอนการเตรียมพื้นก่อนลงแว็กซ์ มีดังนี้
- ทำความสะอาดพื้นให้ปราศจากฝุ่นและคราบสกปรก
-
เช็ดพื้นให้แห้งสนิทก่อนเริ่มลงแว็กซ์ทุกครั้ง
สรุป
กระเบื้องยางหดตัว ปัญหาที่เกิดจากคุณสมบัติของวัสดุที่มีความยืดหยุ่น เมื่อต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นใต้พื้น แต่ปัญหานี้ก็มีวิธีแก้ไขกับการป้องกันได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของหน้างาน ได้แก่
| วิธีการแก้ไข | เหมาะสำหรับ | ลักษณะของวิธี |
|---|---|---|
| ใช้แด๊ปสีอุดร่อง | ร่องขนาดเล็ก และกระเบื้องยังสภาพดี | ทำได้รวดเร็ว และไม่กระทบการใช้งานพื้นที่ |
| เปลี่ยนแผ่นใหม่ | กระเบื้องโก่งตัว เสียหาย หรือเกิดช่องว่างขนาดใหญ่ | แก้ไขปัญหาเฉพาะจุดที่เสียหาย ไม่ต้องรื้อทั้งหมด |
| รื้อและปูใหม่ | ปัญหาเกิดเป็นบริเวณกว้าง ต้องการความเรียบร้อยคงทน | ให้ผลลัพธ์ที่เรียบร้อย และแก้ปัญหาได้ในระยะยาว |
| เคลือบ WAX | ร่องขนาดเล็กมาก และใช้เพื่อการป้องกัน | ช่วยบำรุงรักษาพื้นผิว และป้องกันปัญหาในอนาคต |
การป้องกันปัญหากระเบื้องยางหดตัวตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาได้มาก โดยมีแนวทางที่แนะนำดังนี้
- เตรียมพื้นผิวให้เรียบและแห้งสนิทก่อนติดตั้ง
- เลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เช่น กระเบื้องยาง SPC ที่มีส่วนผสมของผงหิน จะมีการหดตัวน้อยกว่า
- นำกระเบื้องไปวางในพื้นที่ติดตั้งก่อนสักพัก เพื่อให้วัสดุปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม
-
ทาผลิตภัณฑ์เคลือบผิวหลังการติดตั้งเพื่อเพิ่มชั้นป้องกัน
การดูแลรักษาพื้นอย่างสม่ำเสมอ การทำความสะอาดด้วยน้ำยาที่ถูกต้อง การควบคุมอุณหภูมิกับความชื้นในห้องให้คงที่ และการป้องกันรอยขีดข่วน ทำให้พื้นคงความสวยและช่วยยืดอายุการใช้งานได้ค่ะ


