กาวติดกระเบื้องยาง คืออะไร มีกี่ประเภท และวิธีการเลือกใช้ ?
S.J.Sourcing สรุปให้
- กาวติดกระเบื้องยาง คือสารยึดเกาะสำหรับติดตั้งกระเบื้องยางโดยเฉพาะ มีทั้งแบบกาวขาวและกาวยางใส
- กระเบื้องยางแบ่งได้ 2 ประเภทคือ แบบมีกาวในตัว (ติดตั้งง่าย) และแบบใช้กาวแยก (ทนทานกว่า)
- กาวติดกระเบื้องยางหลัก ๆ มี 4 ประเภท ได้แก่ กาวอะคริลิก กาวซีเมนต์ กาวสูตรน้ำ และกาวแบบแห้งเร็ว
- เลือกกาวโดยพิจารณาจากประเภทกระเบื้อง ชนิดพื้นผิว คุณสมบัติการยึดเกาะ การทนความชื้น และความปลอดภัย
- การทากาวต้องเตรียมพื้นผิวให้พร้อม ใช้เกรียงหวีปาดมุม 60 องศา รอแห้ง 24 ชั่วโมงหลังติดตั้ง
-
กาวคุณภาพดีราคา 300-800 บาทต่อกระปุก (3-5 กิโลกรัม) ปูได้ 15-20 ตารางเมตร
กาวติดกระเบื้องยาง ส่วนประกอบสำคัญที่ทำหน้าที่ยึดเกาะระหว่างพื้นเดิมกับกระเบื้องยาง ถ้าเลือกกาวไม่เหมาะสม กระเบื้องยางอาจหลุดร่อน มีปัญหาความชื้น หรือเสียรูปทรงได้
บทความนี้ S.J.Sourcing จะแนะนำกากระเบื้องยางประเภทต่าง ๆ วิธีเลือกใช้ ข้อควรระวัง เพื่อให้การปูกระเบื้องยางมีประสิทธิภาพและทนทานยาวนานค่ะ
สารบัญ
- S.J.Sourcing สรุปให้
- กาวติดกระเบื้องยาง คืออะไร ?
- เกณฑ์การเลือก กาวปูกระเบื้องยาง ให้เหมาะสมกับงาน
- ขั้นตอนการทากาวติดกระเบื้องยาง
- ราคาของกาวกระเบื้องยางโดยประมาณ
- ปัญหาที่อาจพบและวิธีแก้ไขเมื่อใช้กาวผิดประเภท
กาวติดกระเบื้องยาง คืออะไร ?
กาวติดกระเบื้องยาง คือสารยึดเกาะที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ติดตั้งกระเบื้องยางโดยเฉพาะ มีทั้งแบบกาวขาวและกาวยางแบบใส กาวประเภทนี้มีคุณสมบัติพิเศษช่วยให้กระเบื้องยางยึดติดกับพื้นผิวต่าง ๆ ได้อย่างแน่นหนา ทนต่อความชื้น ไม่ทำให้แผ่นกระเบื้องยางเสียรูปทรง
กาวกระเบื้องยางคุณภาพดี ต้องมีลักษณะข้นเหนียว มีความสามารถในการยึดเกาะพื้นผิวสูง ทนความชื้นได้ดี รวมถึงมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราและตะไคร่น้ำบริเวณพื้นที่ติดตั้งด้วย
แม้ว่าจะมีกระเบื้องยางแบบคลิกล็อคหรือแบบมีกาวในตัวให้เลือกใช้มากขึ้น แต่กาวปูกระเบื้องยางแบบแยกก็ยังเป็นที่ต้องการอยู่เสมอ เพราะมีความทนทานสูงกว่าและใช้งานได้กับพื้นผิวหลากหลายประเภทค่ะ
ความแตกต่างระหว่าง กาวกระเบื้องยางในตัวและแบบใช้กาวแยก
คุณสมบัติ | กระเบื้องยางแบบมีกาวในตัว | กระเบื้องยางแบบใช้กาวแยกต่างหาก |
---|---|---|
การติดตั้ง |
|
|
ข้อดี |
|
|
ข้อควรพิจารณา |
|
|
เหมาะกับ |
|
|
ประเภทของ กาวติดกระเบื้องยาง โดยเฉพาะ
กาวติดกระเบื้องยางมีหลายประเภท แบ่งตามลักษณะการใช้งานและวัสดุพื้นฐานของกาวได้ดังนี้
กาวอะคริลิก (Acrylic Adhesive)
- คุณสมบัติ ผลิตจากสารอะคริลิก ให้ความยืดหยุ่นและยึดเกาะดี ทนทานต่อความชื้นและความร้อน ไม่มีกลิ่นแรง ปลอดภัยต่อสุขภาพ
-
เหมาะสำหรับ พื้นที่ภายในอาคาร เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องทำงาน พื้นที่ที่ไม่เปียกชื้นมาก
กาวซีเมนต์ (Cement-Based Adhesive)
- คุณสมบัติ มีความแข็งแรงสูง ยึดเกาะกับพื้นผิวขรุขระได้ดี ทนทานต่อการใช้งานหนัก
-
เหมาะสำหรับ การปูกระเบื้องยางในพื้นที่ที่เป็นพื้นปูน เช่น โรงงานหรือโกดังสินค้า พื้นที่ที่ไม่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
กาวสูตรน้ำ (Water-Based Adhesive)
- คุณสมบัติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่มีกลิ่นแรง ทำความสะอาดง่าย แห้งเร็วและใช้งานสะดวก
-
เหมาะสำหรับ การปูพื้นในบ้านพักอาศัย โดยเฉพาะห้องที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ พื้นที่ที่ต้องการการติดตั้งแบบรวดเร็ว
กาวแบบแห้งเร็ว (Quick-Set Adhesive)
- คุณสมบัติ ไม่ต้องรอกาวแห้ง สามารถปูพื้นกระเบื้องยางได้ทันที ลดปัญหาการหดตัวของแผ่นกระเบื้องยาง
-
เหมาะสำหรับ งานเร่งด่วนที่ต้องการความรวดเร็วในการติดตั้ง
เกณฑ์การเลือก กาวปูกระเบื้องยาง ให้เหมาะสมกับงาน
การเลือกกาวติดกระเบื้องยางที่ถูกต้อง ช่วยให้การปูกระเบื้องยางมีความทนทานและสวยงาม ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
1. ประเภทของกระเบื้องยาง กระเบื้องยางมีหลายแบบ เช่น กระเบื้องยางแบบม้วน กระเบื้องยาง SPC หรือกระเบื้องยาง PVC กาวที่เลือกใช้งานควรถูกต้องตามวัสดุของกระเบื้องยางแต่ละชนิด ควรตรวจสอบคำแนะนำจากผู้ผลิตกระเบื้องยางว่าควรใช้กาวประเภทใด
2. ประเภทของพื้นผิวที่จะปู
- พื้นไม้ ควรใช้กาวอะคริลิกหรือกาวสูตรน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้กาวกัดกร่อนพื้นไม้
- พื้นปูน เหมาะกับกาวซีเมนต์ที่ยึดเกาะได้ดีบนพื้นผิวที่ขรุขระ
-
พื้นผิวโลหะหรือกระจก ใช้กาวโพลียูรีเทนเพื่อการยึดเกาะที่แข็งแรง
3. คุณสมบัติการยึดเกาะ กาวปูกระเบื้องยางที่ยึดเกาะได้แน่น ทดสอบได้จากการทากาวบนพื้นผิวเรียบ และวางแผ่นกระเบื้องยางทับลงไป ถ้าไม่หลุดลอกออกจากพื้นเดิมเมื่อกดลงไปเบา ๆ แสดงว่ามีแรงยึดเกาะค่อนข้างดี
4. การทนความชื้นและป้องกันเชื้อรา ต้องเลือกกาวปูกระเบื้องยางที่ทนความชื้นได้ดีและมีสารป้องกันการเกิดเชื้อราด้วยในตัว ต้องพิจารณาระดับความทนทานด้วย เพราะกาวบางชนิดสามารถทนการแช่น้ำได้ แต่บางชนิดทนได้แค่สภาวะเปียกชื้นช่วงสั้น ๆ เท่านั้น
5. ความปลอดภัยต่อสุขภาพ กาวติดกระเบื้องยางที่มีกลิ่นแรง เกิดจากสารระเหยที่ใช้เป็นตัวทำละลาย สารเหล่านี้เป็นพิษต่อทางเดินหายใจในระยะยาว ควรเลือกกาวที่มีกลิ่นอ่อนหรือไม่มีกลิ่น โดยเฉพาะสำหรับพื้นที่ภายในบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุ
6. ระยะเวลาการแห้งตัวของกาว กาวบางชนิดแห้งเร็วภายใน 5-10 นาที ในขณะที่บางชนิดอาจใช้เวลานานกว่า เลือกให้ถูกต้องกับลักษณะงาน ถ้าเป็นพื้นที่กว้าง ควรเลือกกาวที่แห้งช้าเพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการปรับแต่งแผ่นกระเบื้อง
ขั้นตอนการทากาวติดกระเบื้องยาง
การทากาวติดกระเบื้องยางอย่างถูกวิธี จะช่วยให้กระเบื้องยางยึดติดกับพื้นได้อย่างแน่นหนาและมีอายุการใช้งานยาวนาน มีขั้นตอนดังนี้
1. การเตรียมพื้นผิว
- ทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่น คราบน้ำมัน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ
- ตรวจสอบความเรียบของพื้น ถ้ามีรอยแตกร้าวหรือพื้นไม่เรียบ ควรซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อน
-
ถ้าพื้นเป็นปูนใหม่ ต้องรอให้พื้นแห้งสนิทก่อนทากาว (อย่างน้อย 28 วัน)
2. การทากาว
- ปาดกาวลงบนพื้นผิวที่ต้องการปูกระเบื้องยางให้ทั่วสม่ำเสมอ โดยใช้เกรียงหวีปาดในลักษณะทำมุม 60 องศา
- ควรทากาวแค่พื้นที่ที่สามารถปูกระเบื้องได้ทันภายในเวลาที่กาวยังไม่แห้ง
-
ในกรณีของกาวบางประเภท อาจต้องรอให้กาวเริ่มแห้งหมาด ๆ ก่อนปูกระเบื้อง (ตรวจสอบคำแนะนำจากผู้ผลิต)
3. การปูกระเบื้องยาง
- วางแผ่นกระเบื้องยางลงบนพื้นที่ทากาวไว้ กดให้แน่น โดยเริ่มจากขอบด้านหนึ่งแล้วค่อย ๆ กดไปอีกด้าน เพื่อไล่ฟองอากาศออก
- ใช้ลูกกลิ้งหรือวัสดุหนัก ๆ กดทับบนกระเบื้องยาง เพื่อให้ยึดติดกับพื้นได้ดียิ่งขึ้น
-
ตรวจสอบขอบกระเบื้องว่าเรียบร้อยและไม่มีช่องว่าง
4. การดูแลหลังติดตั้ง
- หลังติดตั้งกระเบื้องยางเสร็จ ไม่ควรทำความสะอาดทันที ควรปล่อยให้แห้งสนิทอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายของหนัก ๆ หลังใช้กาวติดกระเบื้องยางเป็นเวลา 7 วัน
-
ถ้ามีกาวเปื้อนบนผิวกระเบื้อง ให้เช็ดออกทันทีด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น ก่อนที่กาวจะแห้ง
ราคาของกาวกระเบื้องยางโดยประมาณ
ราคากาวติดกระเบื้องยางจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อ คุณภาพ และปริมาณ โดยทั่วไปมีราคาดังนี้
กาวเกรดทั่วไป
- ขนาด 1 กิโลกรัม ประมาณ 100-200 บาท
- ขนาด 3 กิโลกรัม ประมาณ 300-450 บาท
-
ขนาด 5 กิโลกรัม ประมาณ 500-700 บาท
กาวเกรดพรีเมียม
- ขนาด 1 กิโลกรัม ประมาณ 200-300 บาท
- ขนาด 3 กิโลกรัม ประมาณ 450-600 บาท
-
ขนาด 5 กิโลกรัม ประมาณ 700-900 บาท
กาวกระเบื้องยาง 1 กระปุก ปริมาณ 5 kg. สามารถใช้ปูได้ 15-20 ตรม. ถ้าต้องการปูกระเบื้องยางในพื้นที่ 15-20 ตารางเมตร จะต้องใช้กาวประมาณ 1 กระปุก (5 กิโลกรัม) คิดเป็นต้นทุนกาวประมาณ 25-45 บาทต่อตารางเมตร
ยี่ห้อกาวติดกระเบื้องยางที่ได้รับความสนใจในท้องตลาด เช่น BESBOND, TOA, Norman, MC's GLUE โดยแต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นกับราคาแตกต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะกับงบและความต้องการใช้งาน
ปัญหาที่อาจพบและวิธีแก้ไขเมื่อใช้กาวผิดประเภท
การใช้กาวติดกระเบื้องยางผิดประเภทอาจนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ และมีวิธีแก้ไขดังนี้
ปัญหาที่อาจพบ | สาเหตุ | วิธีแก้ไขเบื้องต้น |
---|---|---|
กระเบื้องยางหลุดร่อน | กาวไม่เหนียวพอ หรือพื้นผิวไม่สะอาด |
|
กระเบื้องยางเสียรูปทรง | กาวทำปฏิกิริยากับกระเบื้อง |
|
เกิดเชื้อราและความชื้น | กาวไม่ทนความชื้นในพื้นที่เปียก |
|
กาวแห้งเร็วจนปูไม่ทัน | กาวแห้งเร็วเกินไปสำหรับพื้นที่กว้าง | ทากาวทีละส่วนเล็ก ๆ หรือเปลี่ยนไปใช้กาวที่แห้งช้ากว่า |
กลิ่นกาวแรงรบกวน | กาวมีสารระเหยปริมาณสูง | เพิ่มการระบายอากาศในพื้นที่ หรือเลือกใช้กาวสูตรน้ำ/กลิ่นน้อยค่ะ |
ข้อควรระวังในการใช้กาวติดกระเบื้องยาง
- ห้ามผสมกาวปูกระเบื้องยางกับสารอื่น ๆ อาจทำให้เกิดปฏิกริยาทางเคมี และทำให้กาวเสียคุณภาพ
- ห้ามใช้กาวติดกระเบื้องยางที่หมดอายุ และมีสี กลิ่น หรือผิวสัมผัสที่ผิดปกติ
-
เก็บกาวกระเบื้องยางในที่อุณหภูมิประมาณ 10-25 °C และเลี่ยงไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง
สรุป
กาวติดกระเบื้องยาง คือองค์ประกอบสำคัญในการติดตั้งกระเบื้องยางให้มีความทนทานและสวยงาม ควรเลือกใช้ให้ถูกต้องกับประเภทของกระเบื้องยางกับพื้นผิวที่จะปู ทำให้ยืดอายุการใช้งานและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
หลักการสำคัญในการเลือกกาวกระเบื้องยาง คือ ต้องมีคุณสมบัติยึดเกาะดี ทนความชื้น ไม่มีกลิ่นแรง เหมาะกับพื้นผิวที่จะปู นอกจากนี้ การทากาวที่ถูกวิธีและการดูแลหลังติดตั้งก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสนใจ
ไม่ว่าะเลือกกระเบื้องยางแบบใด ทั้งแบบมีกาวในตัวหรือแบบใช้กาวแยก การเข้าใจเรื่องกาวติดกระเบื้องยางจะช่วยให้ได้พื้นกระเบื้องยางที่สวย แข็งแรง และใช้งานได้ยาวนานตามที่ต้องการค่ะ