โฟมปูพื้น คืออะไร ? ใช้กับพื้นชนิดใดและมีวิธีเลือกอย่างไร
S.J.Sourcing สรุปให้
- โฟมปูพื้น (Foam Underlay) คือแผ่นโฟมสำหรับปูทับพื้นเดิมก่อนติดตั้งพื้นไม้ หรือกระเบื้องยาง
- โฟมรองปูพื้นที่ใช้กันแพร่หลายมี 2 ประเภทหลัก ได้แก่ PE (Polyethylene) และ IXPE (Irradiated Cross-linked Polyethylene)
- โฟมรองพื้นช่วยปรับระดับพื้น ลดเสียงรบกวน ป้องกันความชื้น และยืดอายุการใช้งานของพื้น
- เลือกความหนาตามวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น หนา 1-2 มม. สำหรับปรับระดับ และหนา 2-5 มม. สำหรับเพิ่มการดูดซับเสียง
-
ควรเลือกประเภทโฟมปูพื้นให้เหมาะกับวัสดุปูพื้น เช่น ใช้โฟม PE สำหรับพื้นไม้ลามิเนต และ IXPE สำหรับกระเบื้องยาง SPC
โฟมปูพื้น หรือโฟมรองพื้น มีส่วนช่วยให้การปูพื้นไม้ลามิเนตและกระเบื้องยางใช้งานได้นานขึ้น การปูพื้นใหม่หรือปรับปรุงพื้นเดิม ก็เป็นขั้นตอนสำคัญที่หลายบ้านอาจมองข้าม
บทความนี้ S.J.Sourcing จะพาไปทำความรู้จักกับโฟมรองปูพื้น ตั้งแต่ประเภท คุณสมบัติ รวมถึงวิธีเลือกใช้โฟมปูพื้นให้เข้ากับงาน เพื่อเสริมประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของพื้นให้ยาวนานค่ะ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- S.J.Sourcing สรุปให้
- โฟมปูพื้น คืออะไร ?
- ประเภทของ โฟมปูพื้น ที่มีจำหน่ายทั่วไป
- การเลือกใช้ โฟมรองพื้น สำหรับวัสดุปูพื้นแต่ละชนิด
- ขั้นตอนการติดตั้งแผ่น โฟมรองปูพื้น ก่อนการปูพื้น
- หลักเกณฑ์การเลือกซื้อ โฟมปูพื้น ให้เหมาะสมกับงาน
โฟมปูพื้น คืออะไร ?
โฟมปูพื้น (Foam Underlay) ใช้สำหรับปูทับพื้นเดิมก่อนการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตหรือกระเบื้องยางบางชนิด เพื่อรองรับพื้นผิวด้านบน ช่วยลดปัญหาต่าง ๆ และยืดอายุการใช้งานของพื้นให้ยาวนานขึ้น
สำหรับการปูพื้นไม้ประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้ลามิเนต พื้นกระเบื้องยาง หรือพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ การติดตั้งโฟมปูพื้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะถ้าไม่ปูโฟมรองพื้น จะทำให้พื้นเมื่อใช้งานไปสักระยะก็จะเกิดปัญหาตามมา เช่น พื้นเดินแล้วยวบยาบ มีเสียงรบกวน หรือพื้นเกิดความชื้นจนพองบวมค่ะ
หน้าที่และคุณสมบัติของแผ่น โฟมรองปูพื้น
- ช่วยปรับระดับพื้นในกรณีที่พื้นเดิมมีความเรียบไม่เท่ากันเพียงเล็กน้อย โฟมปูพื้นจะสามารถช่วยยืดหยุ่นให้การติดตั้งพื้นได้ระดับเรียบเท่ากันพอดี
- ช่วยดูดซับเสียงและลดเสียงสะท้อนเมื่อเดินบนพื้น ทำให้ห้องเงียบสงบมากขึ้น
- ช่วยป้องกันความชื้นจากชั้นล่างสุดของพื้น ขึ้นมาสัมผัสกับพื้นกระเบื้องยางและพื้นไม้ลามิเนต ที่เป็นสาเหตุของการพองบวมของพื้น
- ทำให้พื้นมีความยืดหยุ่นเล็กน้อย รู้สึกนุ่มและสบายเท้าเมื่อเดิน
- ช่วยลดแรงกระแทกและรองรับน้ำหนักกระจายแรงได้ดี ทำให้พื้นไม่เสียหายง่าย
-
เพิ่มฉนวนความร้อนให้ห้อง ทำให้ประหยัดพลังงานในการทำความร้อนหรือความเย็น
ประเภทของ โฟมปูพื้น ที่มีจำหน่ายทั่วไป
โฟมปูพื้น หรือโฟมรองพื้นที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
- โฟม PE (Polyethylene) คือโฟมพื้นฐานที่มีราคาไม่สูง หนาประมาณ 1-2 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับการปรับระดับพื้นและใช้กับพื้นไม้ลามิเนตระบบคลิกล็อค โฟมชนิดนี้มีความยืดหยุ่นปานกลาง สามารถป้องกันความชื้นได้ในระดับหนึ่ง
- โฟม IXPE (Irradiated Cross-linked Polyethylene) เป็นโฟมดำปูรองพื้นที่สามารถกันชื้น กันเสียงได้ดี มีความหนาแน่น คุณภาพสูงกว่าโฟม PE ทั่วไป มีความทนทานต่อการเสียดสี การกดทับ และมีคุณสมบัติในการดูดซับเสียงที่ดีกว่า เหมาะสำหรับใช้กับกระเบื้องยางประเภท SPC
- โฟม EVA (Ethylene Vinyl Acetate) มีความหนาตั้งแต่ 1.5-60 มิลลิเมตร มีความยืดหยุ่นสูง นุ่ม ดูดซับแรงกระแทกได้ดี ใช้ในสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยและลดเสียงสะท้อน เช่น ห้องเด็ก ห้องออกกำลังกาย
- โฟม EPS (Expanded Polystyrene) คือโฟมปูพื้นก้อนที่ใช้ในการปรับระดับพื้นที่มีความแตกต่างมาก มีน้ำหนักเบา แข็งแรง และติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับการปรับระดับพื้นที่มีความต่างระดับมาก เช่น การยกพื้น
-
โฟม PU (Polyurethane) สารเคมีที่มีลักษณะของเนื้อโพลิเมอร์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ เฟล็กซิเบิลโฟม (ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์) และริจิดโฟม (ใช้ทำฉนวนกันความร้อน) ในงานปูพื้นใช้ริจิดโฟม เพราะมีความแข็งแรง เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี
การเลือกใช้ โฟมรองพื้น สำหรับวัสดุปูพื้นแต่ละชนิด
การเลือกใช้โฟมรองพื้นให้เหมาะสมกับวัสดุปูพื้นแต่ละประเภท จะช่วยให้พื้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีประสิทธิภาพ มีดังนี้
โฟมปูพื้นสำหรับพื้นไม้ลามิเนต
พื้นไม้ลามิเนต คือวัสดุที่อ่อนไหวต่อความชื้น การเลือกโฟมรองพื้นจึงควรคำนึงถึงคุณสมบัติในการป้องกันความชื้นเป็นหลัก ได้แก่
- โฟม PE ความหนา 1-2 มม. เหมาะสำหรับพื้นไม้ลามิเนตระบบคลิกล็อค ช่วยปรับระดับและป้องกันความชื้น
- โฟม IXPE ความหนา 2-3 มม. เหมาะสำหรับพื้นที่ต้องการลดเสียง และป้องกันความชื้นได้ดียิ่งขึ้น
-
โฟม EVA ความหนา 3-5 มม. เหมาะสำหรับพื้นที่ต้องการความนุ่มและลดเสียงสะท้อน
โฟมปูพื้นสำหรับกระเบื้องยาง
กระเบื้องยางมีหลายประเภท เช่น LVT (Luxury Vinyl Tile) และ SPC (Stone Plastic Composite) แต่ละประเภทต้องการโฟมรองพื้นที่แตกต่างกัน ดังนี้
- กระเบื้องยาง LVT ควรใช้โฟม PE หรือ IXPE ความหนา 1-2 มม. เพื่อปรับระดับพื้นและป้องกันความชื้น
-
กระเบื้องยาง SPC เหมาะสำหรับใช้กับโฟม IXPE ที่สามารถกันชื้นและกันเสียงได้ดี
โฟมปูพื้นสำหรับพื้นไม้จริงหรือพื้นไม้เอ็นจิเนียร์
พื้นไม้จริงหรือพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ มีราคาสูงและต้องการการดูแลรักษาเป็นพิเศษ ควรใช้โฟมรองปูพื้นที่มีความหนา 2-3 มม. มีคุณสมบัติในการป้องกันความชื้นที่ดี เช่น โฟม IXPE
ขั้นตอนการติดตั้งแผ่น โฟมรองปูพื้น ก่อนการปูพื้น
การติดตั้งโฟมปูพื้นอย่างถูกวิธี ช่วยให้พื้นมีประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยมีขั้นตอนดังนี้ค่ะ
1. ทำความสะอาดพื้นเดิมให้ปราศจากฝุ่น เศษวัสดุ และสิ่งสกปรก ตรวจเช็คว่าพื้นแห้งสนิทไม่มีความชื้น
2. ถ้าพื้นไม่เรียบ ต้องปรับระดับพื้นให้เสมอกันด้วยทรายหรือวัสดุปรับระดับก่อนปูโฟมรองพื้น
3. วัดขนาดพื้นที่และตัดแผ่นโฟมปูพื้นให้พอดีกับพื้นที่ ควรเผื่อขอบเล็กน้อยเพื่อให้โฟมขยายตัวได้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ
4. ปูโฟมรองพื้น
- สำหรับโฟมแบบม้วน ปูโฟมให้ครอบคลุมพื้นที่ โดยขนาดของโฟมม้วนมักมีหน้ากว้าง 1.25 เมตร x ความยาว 24 เมตร สามารถปูได้ประมาณ 30 ตารางเมตรต่อม้วน
-
สำหรับโฟมแบบแผ่น วางแผ่นโฟมให้ชิดกัน ไม่ให้มีช่องว่างระหว่างแผ่น
5. ถ้าใช้โฟมปูพื้นหลายแผ่น ควรใช้เทปกันความชื้นปิดรอยต่อระหว่างแผ่นโฟม เพื่อป้องกันความชื้นซึมผ่าน
6. หลังจากปูโฟมรองพื้นเรียบร้อยแล้ว ค่อยเริ่มติดตั้งพื้นชั้นบนตามขั้นตอนของวัสดุแต่ละประเภท
หมายเหตุ สำหรับการยกระดับพื้นที่มีความต่างระดับมาก อาจใช้โฟมปูพื้นก้อน EPS ที่สามารถตัดแต่งได้ง่ายด้วยเลื่อยธรรมดา มีน้ำหนักเบา ทำให้ช่างทำงานได้สะดวกและรวดเร็วค่ะ
หลักเกณฑ์การเลือกซื้อ โฟมปูพื้น ให้เหมาะสมกับงาน
1. ประเภทของวัสดุปูพื้น เลือกโฟมปูพื้นให้เหมาะกับวัสดุปูพื้นที่ใช้ เช่น พื้นไม้ลามิเนต กระเบื้องยาง หรือพื้นไม้จริง
2. ความหนาของโฟม
- ความหนา 1-2 มม. เหมาะสำหรับการปรับระดับพื้นเล็กน้อย
- ความหนา 2-5 มม. เหมาะสำหรับการลดเสียงและเพิ่มความนุ่ม
-
ความหนามากกว่า 5 มม. เหมาะสำหรับการยกระดับพื้น หรือพื้นที่ต้องการความนุ่มพิเศษ
3. คุณสมบัติในการป้องกันความชื้น สำหรับพื้นที่มีความชื้นสูงหรือพื้นชั้นล่าง ควรเลือกโฟมปูพื้นที่มีคุณสมบัติในการป้องกันความชื้นที่ดี
4. คุณสมบัติในการลดเสียง ถ้าต้องการลดเสียงสะท้อนหรือเสียงฝีเท้า ควรเลือกโฟมรองปูพื้นที่มีคุณสมบัติในการดูดซับเสียงที่ดี เช่น โฟม IXPE หรือ EVA
5. ราคากับคุณภาพ เปรียบเทียบราคาและคุณภาพของโฟมรองพื้นแต่ละประเภท โดยพิจารณาถึงความคุ้มค่าในระยะยาว
6. ขนาดของพื้นที่ คำนวณพื้นที่ที่ต้องการปูโฟมและเผื่อเศษไว้ประมาณ 5-10% โฟมรองปูพื้นแบบม้วนจะประหยัดกว่าสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่
7. การติดตั้ง พิจารณาความยากง่ายในการติดตั้ง เพราะโฟมบางประเภทอาจต้องใช้กาวหรืออุปกรณ์เสริมในการปู
สรุป
โฟมปูพื้น วัสดุรองพื้นที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้น ช่วยปรับระดับพื้น ป้องกันความชื้น ลดเสียงรบกวน และเพิ่มความนุ่มสบายเมื่อสัมผัส โฟมรองพื้นมีให้เลือกหลายประเภท ได้แก่ โฟม PE, IXPE, EVA, EPS และ PU แต่ละชนิดมีคุณสมบัติกับการใช้งานที่ต่างกันดังนี้
ประเภทโฟม | ความหนา | คุณสมบัติเด่น | เหมาะกับพื้นประเภท |
---|---|---|---|
PE | 1-2 มม. | ราคาพอรับได้ ปรับระดับพื้นได้ | พื้นไม้ลามิเนตระบบคลิกล็อค |
IXPE | 1-3 มม. | กันชื้น กันเสียงได้ดี ทนทาน | กระเบื้องยาง SPC |
EVA | 1.5-60 มม. | ยืดหยุ่นสูง นุ่ม ปลอดภัย | ห้องเด็ก ห้องออกกำลังกาย |
EPS | 5-100 มม. | น้ำหนักเบา แข็งแรง | การยกระดับพื้นที่ต่างระดับมาก |
PU | 5-50 มม. | ฉนวนกันความร้อนดี แข็งแรง | พื้นที่ต้องการฉนวนกันความร้อน |
การเลือกใช้โฟมปูพื้นควรพิจารณาจากประเภทของวัสดุปูพื้น สภาพพื้นเดิม วัตถุประสงค์การใช้งาน และค่าใช้จ่าย สำหรับพื้นไม้ลามิเนตควรเลือกโฟมรองปูพื้นที่ป้องกันความชื้นได้ดี ส่วนกระเบื้องยางควรใช้โฟมที่ทนทานและรับน้ำหนักได้ดี
หลังจากเลือกโฟมปูพื้นที่ตรงใจแล้ว ขั้นตอนการติดตั้งก็มีความจำเป็นไม่แพ้กัน ต้องเริ่มจากการเตรียมพื้นผิวให้สะอาดแห้ง ปรับหน้าพื้นให้เรียบเสมอกัน แล้วปูโฟมให้คลุมทั่วทั้งบริเวณโดยไม่เหลือช่องว่าง เพื่อให้คุณได้พื้นห้องที่ทนทาน ให้ความรู้สึกสบายเท้าขณะใช้งาน และคุ้มกับการลงทุนในระยะยาวค่ะ