กระเบื้องยางห้องครัว ได้ไหม ? สรุปข้อดีและข้อจำกัดก่อนตัดสินใจ
S.J.Sourcing สรุปให้
- กระเบื้องยางห้องครัว ต้องมีคุณสมบัติกันน้ำได้ดีและทนต่อความชื้นสูง
- กระเบื้องยางประเภท SPC เหมาะกับห้องครัว เพราะมีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก
- กระเบื้องยางห้องครัวติดตั้งง่าย มีทั้งแบบใช้กาวและแบบคลิกล็อค ไม่ต้องรื้อพื้นเดิม ช่วยลดเวลาก่อสร้าง
- ข้อจำกัด ไม่ทนต่อสารเคมี ไม่ควรวางของหนักกดทับเป็นเวลานาน
- ควรเลือกกระเบื้องยางที่มีชั้น Wear Layer หนา 0.3-0.5 มม. ขึ้นไปสำหรับห้องครัว
-
กระเบื้องยางดูแลง่าย ใช้แค่ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาด ไม่ต้องลงแว็กซ์บ่อย
กระเบื้องยางห้องครัว วัสดุปูพื้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับการใช้งานหนัก สามารถทนทานต่อความชื้นและคราบเปื้อนจากอาหารได้ดี บทความนี้จาก S.J.Sourcing จะเล่าถึงข้อดี ข้อจำกัด วิธีการเลือกซื้อ ขั้นตอนติดตั้ง และการดูแลรักษา เพื่อมอบข้อมูลสำหรับตัดสินใจว่ากระเบื้องยาง คือคำตอบสำหรับห้องครัวของคุณหรือไม่ ?
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- S.J.Sourcing สรุปให้
- กระเบื้องยางปูห้องครัว ได้ไหม ?
- วิธีเลือกซื้อ กระเบื้องยางปูห้องครัว
- ขั้นตอนการปู กระเบื้องยางในห้องครัว
- การดูแลและทำความสะอาด กระเบื้องยางห้องครัว
กระเบื้องยางปูห้องครัว ได้ไหม ?
การปู กระเบื้องยางห้องครัว สามารถทำได้ เพราะคุณสมบัติกันน้ำได้ดี ทำให้หมดกังวลเรื่องความชื้นและปัญหาพื้นบวมที่พบในวัสดุชนิดอื่น สำหรับกระเบื้องยางประเภท SPC (Stone Plastic Composite) ที่มีส่วนผสมของแคลเซียมคาร์บอเนตกับพลาสติก จะมีความแข็งแรงทนทาน กันปลวก และไม่ขยายตัวเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยน
กระเบื้องยางในห้องครัวมีข้อดีคือดูแลรักษาง่าย เพียงถูพื้นหมาด ๆ ก็พอ และยังมีลวดลายหลากหลาย ทั้งลายไม้ ลายหินอ่อน หรือลายกราฟิกสมัยใหม่ ช่วยให้ตกแต่งห้องครัวได้ตามสไตล์ที่ต้องการ พร้อมกับช่วยลดเสียงฝีเท้า ทำให้บรรยากาศในบ้านเงียบสงบมากขึ้นค่ะ
ข้อดีและข้อจำกัดของการใช้ กระเบื้องยางห้องครัว
ข้อดีของกระเบื้องยางห้องครัว
- กันน้ำและความชื้นได้ดี กระเบื้องยางประเภท SPC สามารถกันน้ำได้ดี เหมาะกับพื้นที่ที่มีความชื้นได้ง่าย เช่น ห้องครัว และไม่เกิดปัญหาเชื้อรา หรือการบวมพองของพื้น
- ทนทานต่อการใช้งานหนัก กระเบื้องยางมีความทนทานสูง สามารถทนทานต่อการใช้งานหนักและการสึกหรอจากการเดินบ่อย ๆ ได้ดี
- ติดตั้งง่าย กระเบื้องยาง SPC มีระบบคลิกล็อคที่ติดตั้งง่าย ไม่ต้องใช้กาวหรือตะปู ทำให้สามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเอง ช่วยลดเวลาและค่าแรงในการติดตั้ง
- ปลอดภัยจากปลวกและแมลง กระเบื้องยางไม่มีส่วนประกอบที่ทำมาจากไม้ จึงไม่เป็นแหล่งอาหารของปลวก ทำให้ไม่ต้องกังวลกับปัญหาปลวกกัดกินพื้น
- ราคาเข้าถึงได้ กระเบื้องยางห้องครัวมีราคาไม่แพง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นลวดลายไม้แต่อยากลดต้นทุน
-
หลากหลายลวดลายและดีไซน์ กระเบื้องยางมีให้เลือกหลายแบบ สามารถเข้ากับสไตล์การตกแต่งได้ทั้งแบบโมเดิร์น แบบลอฟต์ และแบบวินเทจ
ข้อจำกัดของกระเบื้องยางห้องครัว
- ไม่ทนต่อสารเคมี กระเบื้องยางไม่ทนต่อสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน อาจเป็นข้อจำกัดในห้องครัวที่มีการใช้สารทำความสะอาดเข้มข้น
- อาจเกิดการยืดหดขยายตัว กระเบื้องยางอาจมีการยืดหดหรือขยายตัว แต่มีการพัฒนากระเบื้องยางชนิด SPC ที่ช่วยแก้ไขข้อจำกัดนี้ ด้วยการผสมผงหินกับไวนิลเข้าด้วยกัน ทำให้มีอัตราการยืดหดขยายที่ต่ำลงมาก
- ไม่ทนต่อแรงกดทับเป็นเวลานาน กระเบื้องยางอาจห้องครัวอาจเสียรูปได้ ถ้าถูกกดทับด้วยของหนักเป็นเวลานาน เช่น ตู้เย็น หรือเฟอร์นิเจอร์หนัก
- ยากต่อการซ่อมแซมเฉพาะจุด ถ้าเกิดความเสียหาย จะยากต่อการซ่อมแซมเฉพาะจุด เพราะกระเบื้องยาง SPC แบบคลิกล็อกจะถูกปูต่อกันแบบชิ้นต่อชิ้นวางซ้อนกัน การซ่อมต้องถอดแผ่นกระเบื้องที่อยู่รอบ ๆ แผ่นที่เสียหายออกก่อน
-
ขนาดอาจไม่เท่ากัน ขนาดของกระเบื้องปูพื้นยางไวนิล อาจไม่เท่ากัน แต่ปัญหานี้จะเจอเฉพาะในสินค้าที่ไม่มีคุณภาพเท่านั้น ควรเลือกซื้อจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
วิธีเลือกซื้อ กระเบื้องยางปูห้องครัว
1. เลือกประเภทกระเบื้องยางที่เหมาะกับการใช้งาน
- กระเบื้องยาง SPC (Stone Plastic Composite) เหมาะสำหรับห้องครัวมาก เพราะผลิตจากแคลเซียมคาร์บอเนตผสมพลาสติก มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก และมีความคงตัวสูง ไม่ยืดหดง่ายเมื่อเจอความร้อนหรือความชื้น กันน้ำได้ดี และทนต่อปลวกกับมอด
- กระเบื้องยางแบบคลิกล็อค ติดตั้งง่ายไม่ต้องใช้กาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการติดตั้งเอง
-
กระเบื้องยางแบบแผ่นใช้กาว (Dry back) มีความเรียบเนียนกว่า แต่ต้องใช้ช่างที่มีความรู้ในการติดตั้ง
2. พิจารณาความหนาของกระเบื้องยาง
- เลือกชั้น Wear Layer ที่มีความหนาพอดี ยิ่งหนา ยิ่งทน สำหรับกระเบื้องยางห้องครัว แนะนำความหนา 0.3-0.5 มม. ขึ้นไป เพื่อรองรับการใช้งานที่หนัก
-
กระเบื้องยางทั่วไปมีความหนาตั้งแต่ 2-5 มิลลิเมตร ควรเลือกให้พอดีกับการใช้งาน
3. เลือกพื้นผิวที่เหมาะกับการใช้งาน
กระเบื้องยางมีผิวให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบเรียบ แบบนูน และแบบมี texture สำหรับกระเบื้องยางห้องครัว ควรเลือกแบบที่มีคุณสมบัติกันลื่นอย่างลายนูน หรือแบบมี texture เพื่อความปลอดภัย
4. ตรวจสอบคุณภาพของสินค้า
- ตรวจดูสินค้าให้ดีก่อนซื้อ สอบถามช่างที่รับปูกระเบื้องยางว่าใช้สินค้าตัวไหน และมีการรับรองคุณภาพหรือไม่
-
ควรเลือกซื้อกระเบื้องยางห้องครัว จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ
5. พิจารณาลวดลายและสีสัน
ควรเลือกลวดลายและสีสันที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งห้องครัว เช่น กระเบื้องยางลายไม้ หรือกระเบื้องยางไวนิล สามารถเข้ากันได้ดีกับการตกแต่งทั้งแบบโมเดิร์น ลอฟต์ และวินเทจ
ขั้นตอนการปู กระเบื้องยางในห้องครัว
การปูกระเบื้องยางห้องครัวสามารถทำได้ทั้งแบบจ้างช่างและทำเอง โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. การเตรียมพื้นผิว
การเตรียมพื้นให้พร้อมก่อนติดตั้งกระเบื้องยางห้องครัว มีผลโดยตรงต่อความเรียบของงานเมื่อทำเสร็จ ด้วยลักษณะที่ยืดหยุ่นของวัสดุ ถ้าพื้นเดิมไม่เรียบสนิท เมื่อปูทับไปแล้วจะปรากฏเป็นคลื่นเมื่อมีแสงส่องกระทบ
พื้นผิวเดิมต้องแห้งสนิท เรียบเสมอกัน เพื่อให้กาวทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและกระเบื้องยึดติดแน่นทนทาน พื้นเดิมต้องมีความแข็งแรง ไม่ร่วนเป็นฝุ่น เช่น พื้นปูนขัดมันหรือพื้นกระเบื้องเก่า ในกรณีที่พื้นผิวมีลักษณะเป็นฝุ่น สามารถแก้ไขด้วยการลงกาวผสมปูนซีเมนต์ เพื่อปรับสภาพผิวก่อนทำการติดตั้งค่ะ
2. ปรับสภาพอุณหภูมิ
ก่อนการติดตั้ง ควรปล่อยให้แผ่นกระเบื้องยางห้องครัวปรับตัวกับอุณหภูมิห้องอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันปัญหาการหดตัวในภายหลัง สำหรับพื้นที่ติดเครื่องปรับอากาศ ให้เปิดแอร์แล้ววางแผ่นกระเบื้องกระจายทั่วห้องเพื่อปรับสภาพก่อนเริ่มงาน
3. วิธีการติดตั้ง
แบบใช้กาว (Dry back)
- เป็นการปูพื้นทับพื้นชั้นล่างด้วยกาวแต่ละแผ่นเป็นอิสระต่อกันไม่ยึดติด
- ทากาวให้ทั่วพื้นที่จะปู รอให้กาวหมาดไม่ติดนิ้ว แล้วจึงวางกระเบื้องยางลงไป
-
กดให้แน่นและเรียบ ระวังไม่ให้มีฟองอากาศใต้แผ่นกระเบื้อง
แบบคลิกล็อค (Click lock)
- ใช้ระบบคลิกล็อคในการติดตั้งกระเบื้องยางห้องครัว
- เริ่มจากมุมห้องแล้วต่อเรียงไปตามทิศทางเดียวกัน การติดตั้งกระเบื้องยางสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว
- ล็อคแผ่นกระเบื้องเข้าด้วยกัน โดยไม่ต้องใช้กาว สามารถปูต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ
-
ควรเว้นระยะห่างประมาณ 5-10 มม. จากผนังเพื่อรองรับการขยายตัวของกระเบื้องยาง
4. ข้อควรระวังในการติดตั้งกระเบื้องยางห้องครัว
- เตรียมพื้นผิวให้เรียบและแห้ง ก่อนติดตั้ง ต้องทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาด ปราศจากฝุ่นผงกับความชื้น
- ถ้ากระเบื้องเดิมมีการหลุดร่อน ควรซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อน แล้วใช้กาวซีเมนต์ที่เหมาะกับการปูทับ
-
ควรวางแนวการปูกระเบื้องให้สอดคล้องกับรูปทรงของห้องครัว เพื่อความสวย
การดูแลและทำความสะอาด กระเบื้องยางห้องครัว
วิธีทำความสะอาดประจำวัน
- ทำความสะอาดง่ายด้วยไม้ถูชุบน้ำหมาด ๆ ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีค่า pH เป็นกลาง
- ห้ามเทน้ำหรือน้ำสบู่เพื่อล้างพื้นโดยตรง โดยเฉพาะบนพื้นที่ปูกระเบื้องยางใหม่ ๆ ไม่ถึง 1 อาทิตย์
-
เช็ดรอยเปื้อนทันทีที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในห้องครัวที่มักมีน้ำมันหรือซอสหกเลอะเทอะ
การขจัดคราบสกปรกฝังแน่น
- สำหรับคราบฝังลึก ให้น้ำยาขัดเงาชนิดครีมเหลวเช็ด
- กรณีมีรอยไหม้ในห้องครัว สามารถใช้กระดาษทรายเนื้อละเอียดขัดเบา ๆ
-
สำหรับรอยถลอกและรอยส้นรองเท้า แค่เช็ดพื้นด้วยผ้าชุบแอลกอฮอล์หรือน้ำมันสน
การดูแลในระยะยาว
- ควรใช้ wax ชนิดน้ำ เคลือบผิวหน้ากระเบื้องยางห้องครัว 1-2 ครั้งต่อเดือน เพื่อรักษาความเงางามและป้องกันรอยขีดข่วน
- ห้ามใช้ทินเนอร์ เบนซิน เช็ดล้างทำความสะอาดกระเบื้องยาง เพราะจะทำให้พื้นผิวเสียหาย
-
ติดแผ่นรองเฟอร์นิเจอร์ เพื่อป้องกันรอยบุบหรือรอยขีดข่วนจากการเลื่อนเฟอร์นิเจอร์
ข้อควรระวังในห้องครัว
- หลีกเลี่ยงการทำเครื่องครัวร้อนจัดตกลงบนพื้นกระเบื้องยางโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดรอยไหม้
- เช็ดน้ำมันหรือของเหลวที่หกทันที เพื่อป้องกันการลื่นและการเกิดคราบฝังแน่น
-
หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมตกหล่นบนพื้น เพราะอาจทำให้กระเบื้องยางเป็นรอย
สรุป
กระเบื้องยางห้องครัว มีคุณสมบัติเด่นเรื่องการกันน้ำ ทนต่อความชื้น และทนทานต่อการใช้งานหนัก โดยเฉพาะประเภท SPC ที่มีความแข็งแรงกับคงตัวสูง แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรทราบ คือความไม่ทนทานต่อสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน มีโอกาสเสียรูปถ้าถูกของหนักกดทับเป็นเวลานาน และการซ่อมแซมเฉพาะจุดทำได้ยาก
ความใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพ การติดตั้งที่ถูกต้อง และการดูแลรักษาตามคำแนะนำ จะช่วยให้พื้นกระเบื้องยางห้องครัวมีความทนทาน คงความสวย และตอบโจทย์การใช้งานของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดีค่ะ